เน็ต ไอ ดาย #สวยตายล่ะมึง! Net I Die

เน็ต ไอ ดาย #สวยตายล่ะมึง! Net I Die
ชื่อหนัง : เน็ต ไอ ดาย #สวยตายล่ะมึง! Net I Die

เน็ต ไอ ดาย #สวยตายล่ะมึง! Net I Die

ประเภทหนัง: ระทึกขวัญ ดราม่า สยองขวัญ ผู้กำกับ: ปรีดี วีระธรรม, ณัฐชัย จิระอานนท์ นำแสดงโดย มีน-สรัลธร คล้ายอุดม พิชญ์ กาไชย คิทตี้-ชิชา อมาตยกุล เฟย-ภัทร เอกแสงกุล ดูเลยที่: Doofree4K

เรื่องย่อ  เน็ต ไอ ดาย #สวยตายล่ะมึง! Net I Die   มื่อเน็ตไอดอลต้องเผชิญ อาถรรพ์ไลฟ์สด! เมื่อเกิดเหตุเน็ตไอดอลถูกฆ่าตายอย่างต่อเนื่อง โดยเหยื่อคือคนที่ถูก โมนิก้า (ชิชา อมาตยกุล) แท็กในวีดิโอฆ่าตัวตายแบบไลฟ์สด ทำให้ มะลิสา (สรัลธร คล้ายอุดม) ต้องขอให้ จักร (พิชญ์ กาไชย) แฟนหนุ่มของเธอช่วยหาสาเหตุถึงความแค้นของ โมนิก้า ก่อนที่เธอจะกลายเป็นเหยื่อรายต่อไป มะลิสา (สรัลธร คล้ายอุดม) และ จักร (พิชญ์ กาไชย) คู่รักที่ต้องเผชิญความอาฆาตแบบออนไลน์ สนองนี๊ดเน็ตไอดอลขวัญใจสายหื่น? ดูจากหน้าหนังแล้ว เน็ตไอดาย #สวยตายล่ะมึง! ถือว่าเป็นรองสำหรับหนังผีที่เข้าฉายในช่วงนี้ เพราะหนังเองก็ไม่ได้ใช้นักแสดงที่มีชื่อเสียงมากนัก แม้แต่กับเน็ตไอดอลแต่ละคนที่เอามาก็ยากที่คนทั่วไปจะคุ้นเคย แม้ มันแกว นมคุณธรรม จะดังประมาณนึงแต่สำหรับน้องๆคนอื่น หากคุณไม่ได้เป็นชายหนุ่มที่เพื่อนๆมักโพสต์ภาพจากเพจถ่ายแบบเซ็กซี่ จะมีกี่คนที่รู้ว่า แคท สุดซอย คือใคร น้องภา ตาตี่ คือใคร เป็นต้น ดังนั้นหนังจึงต้องพึ่งพาคนที่มีชื่อเสียงอยู่บ้างอย่าง พิชญ์ กาไชย อดีตนักร้องหนุ่มวงซีควินท์ ที่เพิ่งได้แฮชแท็กประจำตัวอย่าง #ต่ำตมไม่หยุด จากอดีตคนรักนักร้องร่วมค่าย จนทีมมาร์เกตติ้งรีบปล่อยตัวอย่างออกมาเรียกแขกเมื่อเดือนก่อน หรือการนำนักแสดงที่พอมีชื่อบ้างอย่าง มีน สรัลธร คล้ายอุดม หรือ คิตตี้ ชิชา อมาตยกุล มาร่วมแสดง แต่ท้ายที่สุดสองผู้กำกับ ปรีดี วีระธรรม และ ณัฐชัย จิระอานนท์ ที่มาจากสายโพสต์ โปรดักชัน และนักทำหนังล่ารางวัล กลับไม่ประสบความสำเร็จสักทางในการทำหนังเรื่องนี้ให้ออกมาบันเทิงหรือมีคุณภาพในฐานะหนังฉายโรง โมนิก้า (คิตตี้ ชิชา อมาตยกุล) เน็ตไอดอลที่ต้องมาอนาคตดับจนอาฆาต เริ่มที่การแสดงของนักแสดงนำ มีน สรัลธร คล้ายอุดม ในบท มะลิสา คือตัวละครที่ดำมืดมาก ไม่ใช่แค่ความลับ แต่ข้อมูลและคาแรกเตอร์ มันดำมืดจนคนดูไม่อาจรู้สึกอะไรร่วมไปกับเธอ และได้แต่รอให้เธอตายเสียทีจะได้ไปฉี่หลังหนังจบ ยังดีที่ ชิชา อมาตยกุล มีเวลาในหนังที่พอเหมาะพอดีและบทก็ไม่เรียกร้องอะไรนอกจากทำให้คนดูกลัวเธอให้ได้ แม้เมคอัพจะทำให้เราหวนคิดถึงละครผีสมัยก่อนไปบ้างแต่ในช่วงแฟลชแบ็คที่หนังนำเสนอความเจ็บปวดของตัวละครก็ยังมีช่วงที่คนดูเห็นใจเธออยู่บ้าง ส่วน พิชญ์ กาไชย นายควรไปอยู่แต่ในข่าวที่นายได้ แฮชแท็กดังกล่าวนะ เพราะการแสดงของนายก็ไม่ต่างกันตั้งแต่ฉากแรกยันไคลแมกซ์แสนพินาศ เราขอเก็บความประทับใจตอนนายร้องเพลง “ไอ้โน่นก็ไม่ดี ไอ้นี่ก็ไม่เอา” ต่อไปดีกว่า ส้ม (สุชาดา ประมวลการ หรือ น้องแคทสุดซอย) คนกลางที่มาทำงานซ้ำซ้อนกับ เอเจนต์ อีกที ส่วนบรรดาเน็ตไอดอลสาวๆที่เคยทำเอาหนุ่มๆนิ้วล็อค! (เอ่อ หมายถึงรูดหน้าจอ ส่วนใครจะรูดอย่างอื่น อันนี้ผมไม่เกี่ยว) ซึ่งหากคุณคาดหวังจะได้เห็นพวกเธอในอาริยาบถสุดเซ็กซี่โชว์นั่นเปิดนี่ ผมแนะนำให้คุณกลับไปหน้าคอมแล้วเปิดเพจ Cup E หรือ Sexy Angel ตามเดิม คุณยังจะได้ดังสมประสงค์เสียกว่า เพราะไม่เช่นนั้นคุณก็จะต้องมานั่งงง ทำไมน้องมันแกว (รุ่งตะวัน ชัยหา) ต้องมาขายไฟฉาย แถมขายแล้วพูดตะกุกตะกักเสียอีก หรือที่งงหนักกว่าพวกคือ สุชาดา ประมวลการ หรือ น้องแคทสุดซอย ในบทส้ม ซึ่งก็ไม่รู้ทำไมบทถึงให้เธอตาบอด แถมเกี่ยวข้องกับการจ้างงาน โมนิก้า แบบงงๆ เพราะเอาเข้าจริงในเรื่อง คนที่ทำหน้าเป็นเอเจนต์จัดหานางแบบแสดงโดย รัศมีแข อยู่แล้ว ส่วนตัวละครเน็ตไอดอลคนอื่นๆก็มารับเชิญเป็นเหยื่อแบบบทหนังจับยัดให้พวกเธอมีพื้นที่โชว์ตัวเท่านั้นเอง เลยทำให้การแสดงคือบาดแผลใหญ่ที่สุดของหนัง หรือแม้กระทั่งการดึงเสน่ห์เฉพาะตัวของเน็ตไอดอลแต่ละคน หนังก็ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าการเอากล้องไล้ไปตามส่วนเว้าส่วนโค้ง แถมเป็นแค่ชุดเสื้อกล้ามกางเกงขาสั้นธรรมดา ทั้งที่เรา “เห็น” อะไรๆของพวกเธอบนเฟซบุ๊คมามากกว่านี้อีก รู้จักเหล่าเน็ตไอดอลในหนังคลิ๊กเลย มันแกว (รุ่งตะวัน ชัยหา) เน็ตไอดอลผู้เป็นที่อิจฉาของน้องๆเพราะเธอได้ขาย “ไฟฉาย” กิมมิกนี้สิดี…ผีไลฟ์สด..แน่ใจ? มาว่ากันทีเนื้อหาแนวผีแฟนตาซีโลกออนไลน์ ฮอลลีวูดก็สร้างนำไปหลายปีแล้วกับ Unfriended (2014) หรือ Friend Request (2016) ที่โดดเด่นทั้งพลอตและเทคนิคการนำเสนอก็ยากจะหาช่องทางสร้างความแปลกใหม่ให้กับหนัง ดังนั้นสิ่งที่ผู้กำกับอย่าง ปรีดี วีระธรรม และ ณัฐชัย จิระอานนท์ พอจะหยิบจับมาเล่าให้แตกต่างได้บ้างก็คือการจับวัฒนธรรมไลฟ์สดขายของที่เริ่มแพร่หลายมาในระยะเวลาไม่นาน พร้อมการนำเน็ตไอดอลสาวหน้าตาดีถ่ายแบบเซ็กซี่มาเรียกแขกให้กับหนังผีที่มีเนื้อหากึ่งสะท้อนสังคมที่เทคโนโลยีกลับทำให้เกิดเรื่องน่าเศร้ามากมายดังที่ปรากฎเป็นข่าวไม่นาน แต่เอาเข้าจริง ตัวหนังก็ไม่ได้มีการพูดถึงปัญหาดังกล่าวในเชิงจริงจังมากนัก กลับนำมาเป็นแค่กิมมิกที่เคลือบหนังผีตุ้งแช่ตามสูตรธรรมดาๆ ตัวผีเองก็ยังมาหลอกหลอนด้วยความแค้นบางอย่าง แค้นนี้อาจมีสปอยล์ รีวิวครีมแล้วหน้าพังจนฆ่าตัวตายไลฟ์สด ซึ่งเอาเข้าจริงนี่เป็นพลอตที่ซ้ำซากจำเจจนเข้าขั้นล้าหลังของหนังผีไทยเลยก็ว่าได้ มิหนำซ้ำการพยายามทำกราฟฟิกให้เหมือนเฟซบุ๊คไลฟ์ กลับยิ่งทำให้หนังดูปลอมตั้งแต่เฟรมแรกยันเฟรมสุดท้าย เอาง่ายๆ คุณจะกลัวภาพคนถูกผีหลอกแล้วมีอีโมติคอน กดไลค์ หัวเราะ โกรธ ร้องให้ ลอยละล่องอยู่หน้าจอเหรอ ตลก! เอาล่ะ ที่อ่านมาก็มีทั้งข้อดี (ตรงไหนวะ หาก่อน) และข้อเสียของหนังที่ปะปนกัน โดยหากมองแบบ #โลกสวยตายละมึง แล้วล่ะก็เราก็อาจพบว่าหนังสอนให้เรารู้เท่าทันสื่อออนไลน์ ทั้งเรื่องความหลอกลวงของครีมเน็ตไอดอล หรือจริยธรรมในการทำธุรกิจออนไลน์ แต่ข้อคิดไหนก็ไม่โดดเด่นเท่า วันหลังอย่าดูหนังที่เอาเน็ตไอดอลมาแปะบนโปสเตอร์เรียกแขกเด็ดขาด ดูรีวิวจากIMDB หรือดูได้ที่ เน็ต ไอ ดาย #สวยตายล่ะมึง! Net I Die