12 Years a Slave ปลดแอก คนย่ำคน

12 Years a Slave ปลดแอก คนย่ำคน
ชื่อหนัง : 12 Years a Slave ปลดแอก คนย่ำคน

12 Years a Slave ปลดแอก คนย่ำคน

12 Years a Slave ปลดแอก คนย่ำคนเรื่องราวของการต่อสู้เพื่อความอยู่รอดและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เส้นทางชีวิตของชายผู้หนึ่งทั้งประเทศต้องจดจําย้อนกลับไปในช่วงเวลาก่อนยุคสงครามกลางเมืองในประเทศอเมริกา โซโลมอน นอร์ทอัพ (ชิวอิเทล เอจิโอฟอร์) ชายผิวดําจากนิวยอร์กที่ถูกลักพาตัวและขายเป็นทาสยาวนานถึง 12 ปี ซึ่งทําให้ชีวิตของเขาต้องประสบกับความเลวร้ายยากลําบากเกินกว่าใครจะคาดคิด แต่ โซโลมอน ก็มิได้ยอมแพ้ต่อโชคชะตา เขายังคงยืนหยัดต่อสู้เพื่อที่จะมีชีวิตรอดและเพื่อศักดิ์ศรีของเขาจนนํามาซึ่งจุดเปลี่ยนในที่สุด โดยความช่วยเหลือจาก ทนายความ (แบรด พิตต์) ผู้มุ่งมั่นในอุดมการณ์ และ ความถูกต้อง ที่เป็นแรงผลักดันสําคัญให้ โซโลมอน เรียกร้องเสรีภาพของตนเองคืนมาจาก นายจ้าง (ไมเคิล ฟาสเบนเดอร์) ผู้ไม่มีหัวใจที่เป็นธรรม

ประเภทหนัง: ดราม่า ชีวประวัติ ผู้กำกับ: Steve McQueen นำแสดงโดย “Benedict Cumberbatch” , “Brad Pitt” , “Michael Fassbender”

เรื่องย่อ 12 Years a Slave ปลดแอก คนย่ำคน เรื่องราวของ Solomon Northup (Chiwetel Ejiofor) ชายผิวดำที่เป็นเสรีชนที่ลูกมีเมียแล้ว อาศัยอยู่ในนิวยอร์ก แต่โชคชะตาพลิกผันเขาถูกขายไปเป็นทาสโดยที่เขาไม่ทันได้ต่อต้านอะไร ตื่นขึ้นมาอีกที เขาก็กลายเป็นทาสไปแล้ว หนังเริ่มเรื่องด้วยการเล่าภาพไม่เป็นไปตามลำดับเวลา แต่ก็ไม่ได้ยากมากมายนัก สักพักก็จะปะติดปะต่อเข้าใจเหตุการณ์ไปเอง บอกเล่าเรื่องราวใน 12 ปีที่ผู้ชายคนนี้ต้องระหกระเหินอยู่ต่างที่ต่างถิ่น ตกระกำลำบากถูกกดขี่ต่างๆ นานาจากคนผิวขาวที่คิดว่าตัวเองเป็นมากกว่าเจ้านาย แต่เป็นถึงเจ้าของเจ้าชีวิตของเหล่าทาสผิวดำเหล่านี้ ทั้งที่พวกเขาก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งเหมือนๆ กัน โซโลมอนนั้น แรกๆ ก็ไม่ใคร่จะยอมรับในชะตากรรมตัวเองเท่าไหร่ แต่ก็ไม่อาจจะทำอะไรมากไปกว่า “เอาชีวิตให้รอด” เพื่อรอสักวันจะกลับไปสู่ความเป็น “ไท” อีกครั้ง แต่ระหว่างทางนั้นเล่า แสนเจ็บปวดหนักหนากับสิ่งที่มนุษย์กระทำต่อมนุษย์ด้วยกัน หากดูไปแล้ว หนังไม่ได้มีอยู่แค่เพียงแง่มุมเดียว หนังไม่ได้เอ่ยเพียงแค่มุมของการกดขี่ของคนผิวขาวที่มีต่อคนผิวดำ หนังยังขยายไปถึงสิ่งที่คนผิวดำกระทำต่อกันเอง และก็ยังขยายไปถึงสิ่งที่คนผิวขาวด้วยแต่คิดไม่เหมือนกันกระทำต่อกันเองอีกด้วย ซึ่งจะว่าไปแล้วก็เป็นแง่มุมที่พบเห็นและเข้าใจได้จากภาพที่มนุษย์ขี้เหม็นทั้งหลายนั้นเป็นกันอยู่มนุษย์เต็มไปด้วยความลักลั่นย้อนแย้งในตัวเอง มีความเห็นแก่ตัวที่มากน้อยแตกต่างกันไป แต่ก็มักจะนึกถึงตัวเองก่อนคนอื่น และบางครั้งก็ไม่อาจจะช่วยเหลือใครได้เพราะตัวเองก็เอาไม่รอดเลย บางครั้ง เมื่อตัวเองรอดก็ได้แต่ปล่อยให้ตัวเองรอดอยู่คนเดียว บางครั้ง เราก็อาจได้เป็นเพียงแค่คนที่นั่งมองคนอื่นเขาสุขสมหวัง และบางครั้ง ก็ต้องทำร้ายคนอื่นเพื่อความอยู่รอดของตัวเอง ดูรีวิวจากIMDB หรือดูได้ที่ 12 Years a Slave ปลดแอก คนย่ำคน